ซิซินโญ่ : จากการซ้อมแบบเมาแอ๋ที่ มาดริด สู่ชัยชนะเหนือโรคติดเหล้า

    แชมป์ ลา ลีกา 1 สมัย และ โคปปา อิตาเลีย 1 ครั้ง คือความสำเร็จกับการค้าแข้งในทวีปยุโรปของ ซิซินโญ่ อดีตแบ็กขวาชาวบราซิเลียน โดยแฟนบอลบางคนอาจจะยังพอจำเขาได้ เพราะในซีซั่นแรกกับ มาดริด เขาได้ลงเล่นไป 24 นัดในทุกรายการ ส่วนกับ อาแอส โรม่า เขาเคยลงเล่นไปถึง 75 นัดจากทุกรายการในช่วง 2 ฤดูกาลแรกกับทีม

    นอกจากนี้ ซิซินโญ่ ยังเคยได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของทีมชาติบราซิลเป็นจำนวน 15 นัดด้วย และเขาก็อยู่ในชุดที่เป็นแชมป์ ฟีฟ่า คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ เมื่อปี 2005 ร่วมกับนักเตะเพื่อนร่วมชาติอย่าง โรนัลดินโญ่, กาก้า, ลูซิโอ้ และ อาเดรียโน่ เป็นต้น อีก

    อย่างไรก็ตาม ล่าสุดอดีตแข้งวัย 41 ปี ออกมาเปิดใจถึงเรื่องที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ดี นั่นคือการที่เขาเป็นคนติดเหล้ามากๆ หากถามว่าเขาติดเหล้าขนาดไหนก็ต้องบอกว่าเจ้าตัวเคยไปซ้อมกับ มาดริด ในสภาพที่ยังเมาแอ๋อยู่ด้วยซ้ำ หลังจากที่เจ้าตัวย้ายจาก เซา เปาโล ไปอยู่กับ มาดริด เมื่อตอนต้นปี 2006

    "ถ้าคุณถามผมว่าผมเคยไปซ้อมกับ เรอัล มาดริด ในสภาพที่ยังเมาอยู่รึเปล่าล่ะก็ คำตอบก็คือใช่ ผมเคยทำอย่างนั้น คือผมกลบกลิ่นปากของตัวเองด้วยการซดกาแฟ และผมก็ฉีดน้ำหอมใส่ตัวเยอะมากๆ จนแทบจะเรียกว่าอาบมันก็ว่าได้" ซิซินโญ่ เปิดใจถึงเรื่องนั้นกับรายการๆ หนึ่งของ เอมิสโซราส ปิโอเนยราส เด เทเลวิเซา สื่อของบ้านเกิด

    การที่ ซิซินโญ่ เป็นนักเตะอาชีพ และอยู่กับ มาดริด เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาได้ดื่มเหล้าเยอะ เพราะบางครั้งเขาไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อมาซดเองเลย "ผมจะบอกให้ว่าในแวดวงอาชีพของผมน่ะมัน (การหาเหล้ามาดื่ม) เป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายมากๆ คุณไม่จำเป็นต้องมีเงินเพื่อที่จะซื้อเครื่องดื่มเลย เพราะหลายคนยินดีที่จะยกให้คุณฟรีๆ ทุกครั้งที่คุณไปกินข้าวในร้านอาหาร"

    ซิซินโญ่ ไม่ได้ดื่มเหล้าเยอะแค่สมัยที่เล่นอยู่ในสเปนเท่านั้น เพราะหลังย้ายจาก มาดริด ไปอยู่กับ โรม่า ในปี 2007 ด้วยค่าตัวรวม 11 ล้านยูโร เขาก็ยังไปเมาแอ๋กับที่นั่นต่ออีก

    "ผมเริ่มกระดกเหล้าทันทีตั้งแต่หลังจากซ้อมเสร็จ ผมทำกายภาพบำบัด, กลับไปถึงบ้านประมาณ บ่าย 2 โมง หรือไม่ก็บ่าย 2 โมงครึ่ง และกว่าที่ผมจะหยุดดื่มเหล้ามันก็ปาเข้าไปสักตี 4 เห็นจะได้ และทุกครั้งที่ผมไปซ้อมกับ โรม่า ในสภาพที่เมาแอ๋น่ะ พวกคนใหญ่คนโตของทีมก็จะสังเกตเห็นอยู่ตลอด และมันก็ทำให้ผมมีชื่อเสียงในทางที่ไม่ดี"

    แน่นอน การติดเหล้ามากเกินไปส่งผลเสียกับชีวิตการค้าแข้งของ ซิซินโญ่ ในประเทศอิตาลีเช่นกัน เพราะหลังจากได้ลงเล่นบ่อยใน 2 ซีซั่นแรก เขาก็กลายเป็นส่วนเกินของทีมจนถึงขนาดเคยโดนปล่อยให้ เซา เปาโล และ บียาร์เรอัล ยืมตัวไปใช้งาน ก่อนที่จะได้ย้ายออกจาก สตาดิโอ โอลิมปิโก แบบถาวรในปี 2012 เพื่อไปอยู่กับ สปอร์ต เรซิเฟ่ ทีมในบ้านเกิด

    ชื่อของ ซิซินโญ่ ก็ถูกลืมเลือนไปจากคอบอลหลายคนอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกจับตามองว่าจะเป็นสตาร์ดังของ บราซิล ได้ รวมถึงเป็นคนที่ขนาด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังเคยคุยกับเขาด้วยตัวเองเพื่อที่จะดึงเขาไปร่วมทัพในช่วงก่อนที่เจ้าตัวจะเซ็นสัญญากับ มาดริด ด้วย

    ปัญหาการติดเหล้าของ ซิซินโญ่ นั้น เริ่มต้นมาจากในวัยรุ่น ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนในวัยนั้นย่อมรู้สึกสนุกเวลาที่ได้สังสรรค์กับเพื่อนๆ เป็นธรรมดา แต่บางครั้งการเฮฮามันก็มากเกินไปเหมือนกัน

    "ผมได้ลองดื่มพวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครั้งแรกตอนที่ผมอายุแค่ 13 ขวบ และหลังจากนั้นผมก็ไม่เคยหยุดดื่มมันเลย ผมอยู่ในย่านชนบทที่ ปราโดโปลิส ใกล้กับแถว ริเบยเรา เปรโต้ และพอถึงช่วงสุดสัปดาห์เราก็จะมารวมตัวกันแล้วไปเฮฮากันที่ผับต่างๆ แถวบ้านผมมันมีบาร์ด้วย และการที่ผมยังเป็นเยาวชนอยู่ทำให้ตอนนั้นผมพยายามปกปิดเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ผมถึงขั้นขอให้ใครก็ตามที่แก่กว่าผมช่วยซื้อเหล้าให้ จากนั้นผมก็จะดื่มมันโดยที่ไม่ให้พ่อแม่ของผมกับตำรวจรู้"

    ถึงกระนั้น ท้ายที่สุดแล้ว ซิซินโญ่ ก็ยอมรับว่าการติดเหล้ามันไม่ใช่เรื่องที่น่าพิสมัยแม้แต่นิดเดียว "แอลกอฮอล์จะดึงดูดให้คนที่ชอบไลฟ์สไตล์แบบนั้นมาอยู่รอบๆ ตัวคุณ และในขณะเดียวกันมันก็จะขับไสไล่ส่งคนที่รักคุณจากใจจริงออกไปให้ห่างจากตัวคุณ"

    "ตอนที่พวกเขาผลักคุณเข้ากับกำแพงแล้วบอกว่าสิ่งที่ทำอยู่มันไม่ถูกต้องแล้วน่ะ คุณก็ไม่อยากจะรับฟังมัน ผมมีลูกชายที่ตอนนี้อายุ 15 ปีแล้ว และผมก็ขอโทษเขาอยู่เสมอ ตอนที่ผมติดเหล้าหนักๆ น่ะเขาเพิ่งอายุได้เพียง 2 ขวบ ดังนั้นตอนนั้นเขาเลยไม่รู้เรื่องอะไรดีเท่าไหร่ แต่ช่วงเวลาที่เลวร้ายมันฝังลึกอยู่ในหัวของผม"

    ปัจจุบัน ซิซินโญ่ อายุ 41 ปีแล้ว โดยเขาผ่านการบำบัดอาการติดเหล้าได้ด้วยดี และก็อยากจะแบ่งปันประสบการณ์ที่เคยเจอ เพื่อที่จะช่วยให้คนที่เจอชะตากรรมแบบเดียวกับตนสามารถเอาชนะเจ้าโรคติดเหล้าได้

    "ฟุตบอลเคยเป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิตของผม แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญของผมคือการแสดงให้เห็นถึงหลักฐานว่าผมก้าวข้ามมันได้แล้ว และช่วยคนอื่นๆ เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ต้องเจอชะตากรรมแบบเดียวกับผม ผมมักจะพูดเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับพวกเขา"

 

 

https://www.siamsport.co.th/football/laliga/view/288171

เรื่องอื่นๆ