• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • Stopdrink TV
  • Clip Video
  • สื่อรณรงค์
  • รวมลิงค์
  • ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง
  • ติดต่อเรา
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • Stopdrink TV
  • สื่อรณรงค์
  • Clip Video
  • รวมลิงค์
  • ติดต่อเรา

ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว 'พุ่งกระฉูด' เรียกร้องสื่อหยุดเติมเชื้อด้วยเนื้อหาเอามัน

หมวดหมู่ ข่าวรอบสัปดาห์, วันที่ 2 ธันวาคม 64 / อ่าน : 722


มูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ(มสส.)ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)และสื่อมวลชนประชุมระดมความเห็นผ่านระบบZoom เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 64 หัวข้อ   ”ยุติความรุนแรงในครอบครัว…สื่อเติมเชื้อหรือดับไฟ?” ระบุช่วงโควิด19 ระบาดความรุนแรงเพิ่มขึ้นเด็กถูกล่วงละเมิดซ้ำ 2-3 ครั้งมากถึง 75 เปอร์เซ็นต์สาเหตุมาจากเหล้าห่วงคือสื่อทีวีและสื่อใหม่ยังเสนอความรุนแรงที่ประชุมปลุกสังคมอย่าเห็นความรุนแรงเป็นเรื่องปกติสื่อทุกแขนงรับจะระมัดระวังและช่วยกันยุติความรุนแรง  

มูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ(มสส.)ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)จัดประชุมร่วมกับสื่อมวลชนเรื่อง”ยุติความรุนแรงในครอบครัว…สื่อเติมเชื้อหรือดับไฟ”ผ่านระบบZoomโดยมีรศ.กุลทิพย์  ศาสตระรุจิคณบดีคณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมว่าสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก  ได้เล็งเห็นถึงถึงความสำคัญในเรื่องการยุติความรุนแรงในครอบครัว  ดังจะเห็นได้จากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็น“เดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี สอดคล้องกับสหประชาชาติที่กำหนดให้วันที่ 25 พฤศจิกายน ของทุกปีเป็นวันรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรีและบุคคลในครอบครัว จากการสำรวจข้อมูลหลายครั้งพบว่า ปัจจัยกระตุ้นสำคัญของการใช้ความรุนแรงมาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสิ่งเสพติดซึ่งแอลกอฮอล์ถือเป็นต้นทางของปัญหาสำคัญใน 4 มิติ ได้แก่คือ ด้านสุขภาพ ทำลายภูมิคุ้มกัน เพิ่มความเสี่ยงติดโควิด 2.9 เท่า  ด้านอุบัติเหตุทางถนน ที่มากกว่าร้อยละ 20 ของอุบัติเหตุทางถนนมาจากการดื่มแล้วขับ ซึ่งเพิ่มสูงถึงร้อยละ 40 ในช่วงเทศกาล  ด้านเศรษฐกิจ เกิดความสูญเสียไปมากกว่า 9 หมื่นล้านบาทต่อปี และด้านที่ก่อให้เกิดความรุนแรงในครอบครัว กิจกรรมครั้งนี้ นอกกจากจะทำให้สื่อมวลชนได้เข้าใจบทบาทของ สสส. และภาคี แล้วยังจะได้รับฟังความเห็นและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนสังคมเพื่อยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรีและครอบครัวร่วมกัน  

นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่าจากการทำงานของมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลในรอบหลายปีที่ผ่านมาเพื่อสร้างความรับรู้และความเข้าใจถึงต้นเหตุของรุนแรงต่อเด็ก สตรี และครอบครัว  จากการสำรวจสถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัวในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด19  จำนวน1,692 ตัวอย่าง ในกทม.และปริมณฑลระหว่างวันที่17 – 23  ต.ค.2564 พบว่าความรุนแรงที่พบมากที่สุดร้อยละ 53.1 คือการพูดจาส่อเสียด เหยียดหยามด่าทอและดูถูก รองลงมาร้อยละ35 คือการห่างเหินไม่รับผิดชอบต่อครอบครัว ตามมาด้วยร้อยละ 22.6 คือการประจานทำให้อายและร้อยละ 20.2คือการทำร้ายร่างกาย ข้อมูลยังระบุชัดเจนร้อยละ 41.5 พบว่ามีความรุนแรงมากขึ้นกว่าช่วงก่อนจะเกิดระบาดของโควิด19  ที่สำคัญร้อยละ 75 ระบุว่ามีเหตุความรุนแรงซ้ำ 2-3  ครั้ง สาเหตุสำคัญร้อยละ 31.4 ตอบว่ามาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อถามถึงผลกระทบต่อครอบครัวจากการระบาดของโควิด19 พบว่าร้อยละ82 มีผลกระทบทางเศรษฐกิจ ร้อยละ 80.2 มีผลต่ออารมณ์ และร้อยละ 31.3 มีผลต่อความสัมพันธ์

ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลระบุด้วยว่าการแก้ไขปัญหาเมื่อถูกกระทบน่าตกใจว่าร้อยละ52.2 จะใช้การตอบโต้กลับ ร้อยละ 33.2 พูดคุยไกล่เกลี่ย ร้อยละ 20.1  หลบไม่เผชิญหน้า ร้อยละ 11.9 ยอมและวางเฉย มีเพียงร้อยละ 1.4 ที่ดำเนินคดี เมื่อถามถึงการขอความช่วยเหลือหรือปรึกษาพบว่ามีมากถึงร้อยละ87 ที่ไม่ได้ขอความช่วยเหลือปรึกษา เหตุผลเพราะเชื่อว่าจะแก้ปัญหาเองได้ร้อยละ 75.6 เพราะมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวร้อยละ 61.8 มองว่าเป็นเรื่องธรรมดาร้อยละ40  ที่น่าตกใจคือร้อยละ75.4 ไม่ทราบว่าจะปรึกษาใคร ส่วนบทบาทของสื่อมวลชนพบว่าหนังสือพิมพ์รายวันนั้นมีการเสนอเนื้อหาและภาพที่มีความรุนแรงต่อเด็ก สตรีและครอบครัวลดลง  แต่ที่น่ากังวลคือสื่อโทรทัศน์มีการนำเสนอฉากหรือเรื่องราวการคุกคามทางเพศ การข่มขืน การใช้ความรุนแรงกับคู่รัก สร้างมายาคติให้เห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา นอกจากนั้นสื่อออนไลน์สมัยใหม่ยังมีการเสนอความรุนแรงทางเพศเช่นจากการเก็บข้อมูลมิวสิควิดิโอ 19 เพลงมีเนื้อหาที่คุกคามทางเพศกดทับผู้หญิงจึงอยากให้สื่อและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยกันณรงค์เรื่องนี้ต่อไป

 ดร.ชเนตตี  ทินนาม  คณะนิเทศศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย   กล่าวว่าจากการศึกษาบทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนในเรื่องการนำเสนอข่าวความรุนแรงสื่อยังขาดการทำงานอีก 2 มิติคือ หนึ่งสื่อมักมองความรุนแรงทางตรงที่ปรากฎอยู่ในฉากละครและข่าวแต่ไม่ได้มองให้ลึกในเชิงโครงสร้างความรุนแรงในครอบครัว สองสื่อควรจะต้องมองความรุนแรงบนฐานของจากเพศสภาพก้าวลึกไปมากกว่าเพศหญิงเพศชาย ไม่เช่นนั้นการมองปัญหาความรุนแรงของสื่อยังคงมีการผลิตภาพซ้ำให้ความรุนแรงในครอบครัวเป็นเพียงแค่เรื่องส่วนตัวซึ่งเป็นผลจากนโยบายสาธารณะของรัฐที่ปกป้องผู้หญิงน้อยเกินไปและระบบทุนนิยมปิตาธิปไตยในสังคมที่หล่อเลี้ยงและกำกับสื่อ  การใช้ความรุนแรงในครอบครัวถือเป็นความผิดทางอาญาที่ไม่ใช่ความผิดต่อส่วนตัว การเพิกเฉยของรัฐและการผลิตซ้ำของสื่อจึงถือเป็นความรุนแรงเชิงโครงสร้างที่คอยหล่อเลี้ยงให้ความรุนแรงในครอบครัวเป็นความรุนแรงทางทางตรงต่อไป ทางออกของสื่อต้องไม่ยอมรับให้ความรุนแรงในครอบครัวกลายเป็นความชอบธรรม และควรต้องทำงานด้วยหลักความรับผิดชอบไม่ตำหนิผู้เสียหาย รู้เรื่องกฎหมาย มีการนำเสนอข้อเท็จจริงอย่างเสมอหน้าไม่เลือกฐานะครอบครัว มองปัญหาความรุนแรงทั้งบริบทรอบด้าน ยกระดับให้เห็นว่าความรุนแรงไม่ใช่เรื่องส่วนตัว นอกเหนือจากการนำเสนอข่าวและข้อมูลแล้วจะต้องให้ข้อมูลช่องทางในการช่วยเหลือด้วย

นายวิเชษฐ์  พิชัยรัตน์  สื่อมวลชนอาวุโส, อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสสส.กล่าวว่ามีการตั้งคำถามว่าการขายความรุนแรงคือความอยู่รอดของสื่อจริงหรือก็ต้องยอมว่าในอดีตการนำเสนอภาพ ข่าว เสียง ความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงทางเพศ ของสื่อมวลชนนั้นทีมีอยู่จริงจนถึงปัจจุบัน  เพราะผู้บริหารสื่อหรือเจ้าของธุรกิจสื่อจำนวนไม่น้อยมองว่าข่าวประเภทนี้คนอ่าน คนดู คนฟังชอบหรือให้ความสนใจเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจ ยอดจำหน่ายหนังสือพิมพ์หรือสปอนเซอร์สนับสนุนเพิ่มรายการขึ้น กลายเป็นว่าการนำเสนอความรุนแรงแรงผ่านสื่อทำให้ต่ออายุของธุรกิจต่อไปได้ แต่ปัจจุบันนี้สื่อหนังสือพิมพ์ก็เริ่มลดการนำเสนอสิ่งเหล่านี้ลง แต่สื่อโทรทัศน์บางส่วนรวมทั้งสื่อออนไลน์บางส่วนยังคงมีการนำเสนอความรุนแรงในรูปแบบต่างๆอยู่เช่นรายการสนทนาทางโทรทัศน์บางสถานีเห็นได้ชัดว่าเมื่อนำเสนอข่าวความรุนแรงในครอบครัว นำสามีภรรยามาทะเลาะกับผู้หญิงอื่นออกอากาศกลายเป็นข่าวที่คนสนใจ เมื่อไปดูเรทติ้งรายการพุ่งสูงขึ้นรายได้ของบริษัทก็มีกำไรมากขึ้น  แต่ถึงที่สุดในอนาคตเชื่อว่าผู้บริโภคจะเป็นตัวกำหนดเนื้อหาและคุณภาพของสื่อเพราะการนำเสนอข่าว ภาพ เสียงที่สนับสนุนให้มีการใช้ความรุนแรงนอกจากจะทำร้ายเหยื่อซ้ำแล้วอาจจะเป็นการปลูกฟังความคิดการใช้ความรุนแรงให้กับประชาชนไปด้วยโดยไม่รู้ตัว สื่อจึงต้องสกรีนตัวเองก่อนที่จะให้คนอื่นมากำกับดูแลหรือลงโทษ

 

https://www.thaipost.net/human-life-news/36097/



เรื่องอื่นๆ


คะแนนจราจรใหม่ มี 12 คะแนนเท่ากัน เมาแล้วขับ ตัดแต้มสูงสุด
คะแนนจราจรใหม่ มี 12 คะแนนเท่ากัน เมาแล้วขับ ตัดแต้มสูงสุด

17 ก.ค. 65 / อ่าน 979

ประกาศแล้ว! ระเบียบใหม่ ยึดใบอนุญาตขับขี่ และ ระงับการใช้รถชั่วคราว
ประกาศแล้ว! ระเบียบใหม่ ยึดใบอนุญาตขับขี่ และ ระงับการใช้รถชั่วคราว

15 ก.ค. 65 / อ่าน 927

สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระคติธรรม 'วันงดดื่มสุรา' จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม
สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระคติธรรม 'วันงดดื่มสุรา' จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม

14 ก.ค. 65 / อ่าน 1052

คำขวัญนายกรัฐมนตรี ในวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ปลอดเหล้า ปลอดโรค ปลอดภัย ห่างไกลโควิด-19
คำขวัญนายกรัฐมนตรี ในวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ปลอดเหล้า ปลอดโรค ปลอดภัย ห่างไกลโควิด-19

12 ก.ค. 65 / อ่าน 968

ตร.เตือนห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วันอาสาฬหบูชา-วันเข้าพรรษา
ตร.เตือนห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วันอาสาฬหบูชา-วันเข้าพรรษา

12 ก.ค. 65 / อ่าน 695

สธ. เผยความเห็น ปชช. พบ 83.5% ไม่เที่ยวสถานบันเทิง หวั่นเสี่ยงโควิด
สธ. เผยความเห็น ปชช. พบ 83.5% ไม่เที่ยวสถานบันเทิง หวั่นเสี่ยงโควิด

12 ก.ค. 65 / อ่าน 586

ดูข่าวรอบสัปดาห์ทั้งหมด


ค่าใช้จ่ายที่คุณดื่มใน 1 สัปดาห์

(บาท)
  • หลังจาก 1 เดือน
         คุณจะต้องจ่าย บ.
  • หลังจาก 6 เดือน
         คุณจะต้องจ่าย บ.
  • หลังจาก 1 ปี
         คุณจะต้องจ่าย บ.
  • หลังจาก 5 ปี
         คุณจะต้องจ่าย บ.

หมวดข่าว

  • ข่าวรอบสัปดาห์
  • ข่าวภัยจากน้ำเมา
  • ข่าวรณรงค์
  • ข่าวงดเหล้าทั่วไทย
  • ข่าวต่างประเทศ
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • สุขปลอดเหล้า
  • ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง

เครือข่าย

  • เครือข่ายงดเหล้าภาคเหนือบน
  • เครือข่ายงดเหล้าภาคเหนือล่าง
  • เครือข่ายงดเหล้าภาคอีสานบน
  • เครือข่ายงดเหล้าภาคอีสานล่าง
  • เครือข่ายงดเหล้าภาคตะวันออก
  • เครือข่ายงดเหล้าภาคกลาง
  • กรุงเทพมหานคร
  • เครือข่ายงดเหล้าภาคตะวันตก
  • เครือข่ายงดเหล้าภาคใต้
  • เครือข่ายงดเหล้าภาคใต้ตอนล่าง

Links

  • เกี่ยวกับ stopdrink.com
  • ปรึกษาการเลิกเหล้า 1413
  • Stopdrink TV
  • สื่อรณรงค์/ดาวน์โหลด
  • รวมลิงค์
  • ติดต่อเรา

สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.)
110/287-288 ม.6 ซอยโพธิ์แก้ว แยก 4 ถ.โพธิ์แก้ว แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. 10240
โทร 02 948 3300 , Fax สคล. 02 948 3930, Fax สปอนเซอร์ชิป 02 948 3302
eXTReMe Tracker