-
หลังจาก 1 เดือน
คุณจะต้องจ่าย บ. -
หลังจาก 6 เดือน
คุณจะต้องจ่าย บ. -
หลังจาก 1 ปี
คุณจะต้องจ่าย บ. -
หลังจาก 5 ปี
คุณจะต้องจ่าย บ.
‘บิ๊กตู่’ลั่นหยุดสักที พวกเที่ยวที่อโคจร! เตือนนักการเมืองเป็นบทเรียน บอกตัวเองไม่เคยไปมาหลายสิบปี แต่ตอนหนุ่มๆคนละเรื่อง ขู่ฟ้องคนโยง’ไทยคู่ฟ้าคลับ’
เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังร่วมกับคณะแพทย์ ประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารป้องกันโควิด-19(ศบค.) ชุดเล็ก นายกฯให้สัมภาษณ์ กรณี แผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นเพียงแผน หากดำเนินการไม่ได้ก็ไม่ทำตามแผน ซึ่งหากจะบังคับใช้ได้จริงจะต้องออกมาเป็นคำสั่งไม่ใช่แผน รวมถึงการเจรจากับประเทศ เช่น มีวัคซีนพาสปอร์ตหรือไม่ พร้อมย้ำว่าแผนการเปิดประเทศไม่ใช่เปิดโล่งทั้งหมด ต้องดูด้วยว่าประเทศเพื่อนบ้านเขาเปิดหรือไม่ ทุกวันนี้ต้องย้ำเรื่องเศรษฐกิจค้าขายเป็นหลัก ทั้งต้องเตรียมวัคซีนให้พร้อมในพื้นที่ท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งทำอะไรต้องเป็นกลางเสมอ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เท่าเทียม รับฟังความคิดเห็นว่าสิ่งใดทำได้หรือไม่ได้บ้าง ไม่ใช่เพียงแค่คิดแล้วสั่งโครมๆ ลงไปเลย
ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ที่มีข่าวนักการเมืองหรือรัฐมนตรีเดินทางไปที่อโคจร รัฐบาลจะเรียกความเชื่อมั่นได้อย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ไก่เกิดก่อนไข่หรือไข่เกิดก่อนไก่ ใครจะไปที่ไหนมาก็รู้ตัวอยู่แล้ว รัฐบาลจะไปห้ามก็ไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคล วันนี้ตนมองว่าเป็นบทเรียนพอสมควรแล้ว ขอให้หยุดกันเสียที เพราะหากใครติดเชื้อก็ต้องรักษา ซึ่งเป็นบทเรียนว่าสถานที่อโคจร ไม่ควรไป เพราะนายกฯ ก็ไม่เคยไปไหนเลยกว่า 10 ปีแล้ว ไม่เคยออกจากบ้านไปไหนเลย แต่สมัยหนุ่มๆ ก็คงคนละเรื่อง แต่ไม่ไปขนาดนี้
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงรัฐมนตรีคนอื่นๆ ว่า มีการรายงานการกักตัวเข้ามาให้ทราบ ซึ่งเขาก็โอเค และตนได้สั่งการให้ทำงานอยู่ที่บ้าน ผ่านการประชุมระบบวิดิโอคอนเฟอเรนซ์ สั่งงานผ่านแอพพิเคชั่นไลน์ ไม่ใช่ 14 วันและจะหายไปเลย ทุกคนมีความรับผิดชอบ ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเวลาใดก็รับผิดชอบ จึงขอทุกคนรับผิดชอบไปกับตนเองด้วยรวมถึงสื่อมวลชนด้วยว่าจะทำยังไงให้บ้านเมืองสงบ
ส่วนกรณีที่รัฐสภามีการเลื่อนพิจารณาร่างประชามตินายกรัฐมนตรีย้อนถามว่าเพราะอะไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็เพราะมีการติดเชื้อโควิดซึ่งตนจะไปบังคับใครไม่ได้เนื่องจากเป็นเรื่องของสภา เมื่อมีการระบาดสมาชิกก็กลัวจะติดไปด้วย ยืนยันว่าตนจะไม่เข้าไปยุ่งกรณีที่ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้จะผ่านหรือไม่ผ่าน เพราะหลายอย่างที่เสนอผ่านรัฐบาลไปแล้วเป็นสิ่งที่เห็นชอบและจะไปควบคุมไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอะไร เพราะทุกคนมีความคิดไม่ต้องไปสั่งเขา
ส่วนการออกมาตรการของจังหวัดที่ออกมาควบคุมป้องกันการแพทยระบาดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มี 2 อย่าง คือจังหวัดจะจัดการพื้นที่อย่างไรที่มีการระบาดอย่างไร และจะเข้าไปอย่างไร และอีกประการคือคนที่จะเข้าไป มาจากพื้นที่ใดบ้าง ทั้งนี้ต้องคำนึงด้วยว่า การเดินทางจาก จ.กรุงเทพมหานคร จังหวัดปลายทางจะรับหรือไม่ ส่วนจะเพิ่มพื้นที่หรือไม่ ศบค. จะเป็นผู้แถลงชี้แจง และในวันนี้ สถานบันเทิงก็มีปิดตัวลงและได้รับความเดือดร้อนด้วย อีกทั้งตนยังได้สั่งตำรวจดูแลในเรื่องของอุปกรณ์การตรวจวัดแอลกอฮอล์ในจุดตรวจด่านแอลกอฮอล์เพื่อลดการแพร่ระบาดด้วย โดยยืนยันว่ามีการเปลี่ยนหลอดเป่าอยู่ตลอดไม่ใช่การเป่าปี่หรือดูดแต่อย่างใด
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง กรณีที่มีการโยงสถานบันเทิงกับตึกไทยคู่ฟ้า ว่า กำลังสั่งการให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาว่าผิดกฎหมายหรือไม่ การใช้คำว่าไทยคู่ฟ้า ไปทำโน้นทำนี้ คงไม่ใช่ ขอให้ระวังกันด้วย
https://www.matichon.co.th/politics/news_2665798
17 ก.ค. 65 / อ่าน 1711
15 ก.ค. 65 / อ่าน 1609
14 ก.ค. 65 / อ่าน 1702
12 ก.ค. 65 / อ่าน 1607
12 ก.ค. 65 / อ่าน 959
12 ก.ค. 65 / อ่าน 868