แพทย์ ชี้ เสพยา 'เคนมผง' แล้วดื่มเหล้า ต้นเหตุเสียชีวิต เตือนไม่ควรลอง

จากกรณีการเสียชีวิตของวัยรุ่นหลายคนที่เสพยาเสพติด ที่เรียกว่า ยาเคนมผง ที่มีการนำมาผสมของ ตัวยา หลายชนิดนั้น

13 ม.ค. 2564 นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชนนี (สบยช.) กล่าวในรายการเป็นเรื่องเป็นข่าวว่า ในอดีตที่ผ่านมาได้รับคนไข้ที่ติดยาบ้า ยาเค และยาเสพติดชนิดอื่นๆมาบำบัด ส่วนผู้ติดยาเสพชนิดยาเค ก็เข้ามาบำบัดบ้างแต่มีประปราย

 

ส่วนยาเคนมผง เชื่อว่าทางผู้ค้ายาเสพติดต้องการให้ฤทธิ์ยาเคตามีน เปลี่ยนไปหรือให้มีความหลากหลาย เพื่อให้คนเสพมีความสุขมากขึ้น  ผู้ค้าจึงมีการใส่ส่วนผสมต่างๆ โดยสารที่ผสมเข้าไปมีหลายตัวมาก บางสูตรก็ผสมยานอนหลับ บางส่วนก็ไปผสมกับกลุ่มจำพวกยาอี โดยการนำไปบดเป็นผงสีขาวแล้วเอามาคลุกกัน อย่างที่วัยรุ่นยาเคนมผง

 

 

จากการที่ได้บำบัดผู้ติดยาเสพติด ก็ได้พบว่า คนหนึ่งคนมักจะไม่เสพยาแค่ตัวเดียว จะเสพยารวมกันหลายตัว หมายความว่า เสพทีละตัว เช่น ดื่มเหล้าแล้วก็เสพยาบ้าไปด้วย หรือเสพยาบ้าแล้วนำกัญชามาเสพผสมด้วย แต่ไม่เคยเจอผู้ป่วยที่เสพยาที่นำมาผสมเป็นเนื้อเดียวกัน เพิ่งมาเจอในช่วงนี้ และตอนนี้ก็มีคนเข้ามาบำบัดแล้ว บางคนมีความยุ่งยากซับซ้อน

 

สำหรับอาการของผู้เสพยาเคนมผงมีอาการต่างกับผู้เสพยาชนิดอื่นหรือไม่นั้น จริงๆแล้วอาการที่แสดงออกมาเกิดจากฤทธิ์ของยาที่เสพ ยาเค เป็นยาที่ออกฤทธิ์หลอนประสาท เมื่อมีอาการหลอนประสาทก็จะไปบิดเบือนความรู้สึก หรือ แปรผลของประสาท มักจะมีอาการหวาดระแวง หรือ เห็นภาพหลอน กลัว หูแว่วโดยไม่ทราบสาเหตุ บางรายมีการอาละวาด หรือ คลุ้มคลั่ง ขณะที่บางรายอาจมีความรู้สึกเคลิ้มมีความสุข ถ้านำยาอื่นมาผสมด้วยก็ขึ้นอยู่กับฤทธิ์ของส่วนผสมนั้นๆ ยกตัวอย่างผสมกับยานอนหลับก็อาจจะมีฤทธิ์ให้เกิดอาการง่วงหรือ ซึม บางรายในกรณีที่ผสมกับยานอนหลับ และเฮโรอีน จะพบว่า ยาสูตรนี้จะกดประสาทค่อนข้างรุนแรงมีอันตรายถึงชีวิต

 

 

เมื่อถามว่าผู้ที่เสพยาเคนมผง จะมีการออกอาการรุนแรงเพราะผสมยาหลายตัวจะทำให้หมอ พยาบาล ทำงานยากขึ้นหรือไม่ นพ.สรายุทธ์ กล่าวว่า ในหลักการทางการแพทย์ก็มีหลักเกณฑ์ที่จะต้องดูแล ถามว่ายากไหม ก็อาจจะมีความยุ่งยากซับซ้อนแต่ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เป็นอุปสรรค์ที่จะดูแลผู้ป่วย แต่ที่สำคัญมากๆคือประวัติของคนไข้ บางรายมีข้อกำจัด คือ ยังอยู่ในอาการเมามากจนไม่สามารถให้ประวัติได้ ซึ่งจะต้องมีความรอบคอบเพื่อให้สามารถดูแลคนไข้ให้ได้มากที่สุด ทั้งร่างกาย และจิตประสาท

 

“สิ่งที่กังวลมากที่สุดคือการนำไปผสมกับยาที่กดประสาท เช่น ยาเฮโรอีน หรือ ยานอนหลับที่มีปริมาณมากๆ สิ่งที่เราเห็นเป็นประจำ คือ ทุกครั้งที่ใช้ยาเหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะดื่มเหล้าด้วยโดยเหล้าก็มีฤทธิ์กดประสาทอย่างรุนแรงเช่นกัน ถ้าดื่มในปริมาณมากๆ ก็จะเป็นต้นเหตุหลักของการเสียชีวิต แต่ต้องรอดูผลการชันสูตรศพของผู้ที่เสียชีวิต”

 

นพ.สรายุทธ์ กล่าวเตือนว่า ไม่ควรใช้ยาเสพติด ต่อใช้แค่ครั้งเดียวก็ไม่ควรใช้ ไม่ควรลอง ไม่ควรเริ่ม สารพวกนี้ทำลายระบบของร่างกายและจิตใจ ถึงแม้จะใช้เพียงนิดเดียวก็มีอันตราย อาจเสียชีวิตก็ได้

 

 

ส่วนฤทธิ์ของยาที่อยู่ได้นานถึง 3-4 วันนั้น ส่วนใหญ่เป็นฤทธิ์ที่เกิดจากระบบทางประสาทหรือ สมอง ถือแม้ฤทธิ์ยาถูกขับออกจากร่างกายไปแล้วก็ตาม แต่ความเสียหายของร่างกายที่ทำให้สารเคมีในระบบสมองคลาดเคลื่อน จึงทำให้คนไข้มีอาการเบลอ และหวาดระแวง บางรายที่มีอาการหนักเมื่อรักษาแล้วร่างกายอาจไม่กลับมา 100 เปอร์เซ็นต์ แต่บางรายก็มีโอกาสที่จะฟื้นฟูได้ 100 เปอร์เซ็นต์ สิ่งที่จะต้องช่วยดูแล คือ เมื่อทราบแล้วก็ควรจะนำมาบำบัดโดยเร็วที่สุด

 

นพ.สรายุทธ์ กล่าวว่า ถ้ามีปัญหาอะไรเกี่ยวกับยาสเพติดสามารถโทรมาปรึกษาที่ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี เบอร์โทร 1165 จะมีคนคอยตอบคำถามและให้คำแนะนำ หรือไปปรึกษาโรงพยาบาลใกล้ที่อยู่ของท่านได้

 

https://www.pptvhd36.com/news/140052

 

 

 

 

เรื่องอื่นๆ